DES พร้อมกับ Thai PBS เตรียมยื่นฟ้อง Facebook ฐานทำความผิดพรบคอมพิวเตอร์
เมื่อวันที่ 31 เดือนกรกฎาคมปี พ.ศ.2563 ทางด้านกระทรวง DES พร้อมกับสำนักข่าว Thai PBS ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่ Facebook ได้มีการถ่ายทอดข้อความไม่เหมาะสมลงบน Facebook ซึ่งข้อความนั้นมีการแปลเป็นภาษาไทยที่ไม่ถูกต้องและยังมีการนำข้อความดังกล่าวแสดงบนหน้าเพจของ Thai PBS อีกด้วย
ซึ่งข้อความที่มีการแปลนั้นเป็นข้อความที่กำลังมีการทำกิจกรรมพระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งพระองค์เป็นขวัญและกำลังใจเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย
แต่ข้อความที่ทางบริษัท Facebook ได้มีการออกมาเป็นการแปลข้อความที่ผิดและไม่ถูกต้องถือเป็นการหมิ่นเกลียดพระมหากษัตริย์ของไทยเป็นอย่างยิ่งทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจึงได้มีการประสานงานไปยัง Facebook ให้แสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่สำคัญจะต้องการให้ทาง Facebook มีการทำงานที่รอบคอบมากกว่าที่เป็นอยู่
ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลได้มีการประสานงานไปทาง Facebook ที่เป็นสำนักงานในเมืองไทยและเป็นสำนักงานในสิงคโปร์เพื่อต้องการให้กับผู้บริหารนั้นออกมาแสดงความรับผิดชอบและแน่นอนว่าเรื่องราวในครั้งนี้จะต้องมีการเข้าสู่กระบวนการเกี่ยวกับเรื่องของการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน
ซึ่งทางสำนักข่าวไทยพีบีเอสก็จะเข้าร่วมในการฟ้องร้องบริษัท Facebook ในครั้งนี้เช่นเดียวกันเพราะว่าข้อความดังกล่าวนั้นก็ไปโชว์ที่สำนักข่าวของ Thai PBS สร้างความเสียหายกับไอ้กับไทยพีบีเอสมากเช่นเดียวกันนั่นเอง
อย่างไรก็ตามทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลได้มีการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของการร่วมมือการทางธุรกิจกลับทาง Facebook ว่ามีหลายรายการที่มีการส่งเรื่องไปให้กับทาง Facebook เพื่อขอความร่วมมือให้มีการปรับเปลี่ยนข้อมูลให้ตรงกับลักษณะของสังคมไทย
เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติกับคนไทยซึ่งมีการส่งเนื้อเรื่องเนื้อหาที่อยากจะให้ Facebook มีการปรับเปลี่ยนข้อมูลนั้นถึง 4000 กว่าเนื้อหาด้วยกันแต่ปัจจุบันนี้ทาง Facebook ดำเนินการให้กับทางคนไทยนั้นเพียงแค่พันกว่าเนื้อหาเท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมากโดยทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลยังนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับทางยูทูปว่าเงื่อนไขที่ส่งให้กับทาง Facebook ให้มีการปรับเปลี่ยนข้อมูลนั้น
มีการส่งเรื่องให้กับ YouTube เช่นเดียวกันแต่ทาง YouTube นั้นดำเนินการให้กับประเทศไทยอย่างรวดเร็วเรียกได้ว่า 90% นั้นทาง YouTube ทำให้ประเทศไทยได้ทั้งหมดซึ่งถือว่าการกระทำในครั้งนี้ของ YouTube นั้นเป็นการแสดงความรับผิดชอบและเป็นการร่วมมือกันกับประเทศไทย
ได้เป็นอย่างดีผิดกับทาง Facebook ที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับประเทศไทยเท่าที่ควรซึ่งตอนนี้ทางด้าน DESหรือกระทรวงดิจิตอลได้มีการส่งเรื่องดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหลือแค่เพียงคำสั่งศาลเท่านั้น
ได้รับการสนับสนุนโดย ae บาคาร่า