Scott Brinker ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ ion Interactive และ Jason Heller ผู้นำระดับโลกของสายบริการ
การตลาดของ McKinsey พูดคุยถึงความหมายของเทคโนโลยีการตลาดในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน และบริษัทต่างๆ จะสามารถนำไปใช้ได้อย่างไร การเป็นนักเทคโนโลยีการตลาดในปัจจุบันหมายความว่าอย่างไร การตลาดกลายเป็นวินัยที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
โดยพื้นฐาน และนำไปสู่การเพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดรูปแบบใหม่ นักเทคโนโลยีการตลาดคือบุคคลที่มีทักษะด้านเทคนิคซึ่งออกแบบและดำเนินการโซลูชันเทคโนโลยีในการให้บริการด้านการตลาด นี่ไม่ใช่แค่การฝังบริการด้านไอทีไว้ในการตลาดเท่านั้น
นักเทคโนโลยีการตลาดที่ดีมุ่งมั่นที่จะเข้าใจบริบทของเทคโนโลยี พวกเขาหลงใหลในการจินตนาการถึงสิ่งที่การตลาดสามารถทำได้ในโลกดิจิทัล
ช่วยให้นักการตลาดที่ไม่ใช่ด้านเทคนิคสร้างแคมเปญ โปรแกรม และประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์และข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยจัดการอินเทอร์เฟซทางเทคนิครูปแบบใหม่ที่ฝ่ายการตลาดมีกับเอเจนซี่และผู้ให้บริการ
ซึ่งเป็นชั้น API (Application Programming Interface) ที่อยู่ระหว่างพวกเขา
พวกเขาเป็นลูกผสมที่พูดทั้งการตลาดและไอที และมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาโดยธรรมชาติ และในโลกที่มีจุดบรรจบกันมากขึ้นระหว่างวินัยและหน้าที่ และความจำเป็นในการแยกตัวออกจากไซโลขององค์กรแบบเดิม บทบาทดังกล่าวเอื้อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง
นั่นเป็นคำจำกัดความที่ยอดเยี่ยม ฉันชอบคิดว่านักเทคโนโลยีการตลาดเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างประสบการณ์ของผู้บริโภคและการดำเนินการทางการตลาด การนำเทคโนโลยีการตลาดที่มีประสิทธิภาพมาใช้นั้นจริงๆ แล้วทั้งหมดเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่าผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ช่องทางใดกำลังเติบโต และเพราะเหตุใด บริษัทจำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์และวัตถุประสงค์โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจนเกี่ยวกับทั้งสองประเด็นนี้
จากนั้นพวกเขาจะต้องสร้างโครงสร้างองค์กรและสร้างขีดความสามารถเพื่อรองรับพวกเขา การตัดสินใจครั้งสุดท้ายคือจะใช้ช่องทางและเทคโนโลยีใด
แน่นอน ฉันคิดว่าความสับสน ความซับซ้อน และความกลัวที่ผู้คนเชื่อมโยงกับการนำทางในระบบนิเวศของเทคโนโลยีการตลาดนั้น เป็นตัวแทนสำหรับการดิ้นรนของพวกเขาในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางการตลาดใหม่ การทบทวนวิธีที่บริษัทจะดึงดูดผู้ชมและช่องทางต่างๆ
ถือเป็นความท้าทายที่น่ากังวลมากกว่าโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคในการดำเนินการตามวิสัยทัศน์นั้น
ฉันคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะเน้นย้ำว่านี่ไม่เกี่ยวกับการตลาดที่มาแทนที่ไอที หรือการตลาดที่หลอกลวง นักเทคโนโลยีการตลาดสามารถทำงานด้านไอทีหรือการตลาดก็ได้ พวกเขาควรอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันมากขึ้นระหว่างทั้งสองแผนก
รุ่งอรุณแห่งยุคแพลตฟอร์ม มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านเทคโนโลยีการตลาด พลวัตที่น่าสนใจที่สุดประการหนึ่งคือการบรรยายแบบคู่ของการควบรวมกิจการและการกระจายความเสี่ยง ในด้านหนึ่ง บริษัทซอฟต์แวร์ระดับองค์กรรายใหญ่กำลังสร้างและรับข้อเสนอ “ระบบคลาวด์การตลาด” ขนาดใหญ่
แต่ในขณะเดียวกัน สตาร์ทอัพอื่นๆ หลายพันรายก็กำลังสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ รอบตัวพวกเขา เป็นทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง ตอนนี้เราเริ่มเห็นพลังทั้งสองมาบรรจบกัน เนื่องจากคลาวด์การตลาดเหล่านี้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่แท้จริงที่มี API แบบเปิดและระบบนิเวศอย่างเป็นทางการของ ISV
(ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ) เพื่อให้นักการตลาดเสียบความสามารถพิเศษเข้ากับแกนหลักของเทคโนโลยีการตลาดทั่วไปได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างที่ดีของสิ่งนี้คือ App Exchange ของ Salesforce ซึ่งมีแอปที่ได้รับการรับรองมากกว่า 2,600 รายการ
ซึ่งนักการตลาดสามารถเสียบเข้ากับระบบของตนได้ สิ่งที่จะทำให้ภูมิทัศน์นี้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกหลายปีข้างหน้าคือบทบาทที่เพิ่มขึ้นที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ต เช่น Google, Facebook, LinkedIn จะมีในการจัดหาซอฟต์แวร์ให้กับนักการตลาด โดยแข่งขันกับโมเดลธุรกิจของบริษัทซอฟต์แวร์องค์กรแบบดั้งเดิม
สนับสนุนเนื้อหาโดย ufabet